
สมาคมสื่อฯเตรียมลงพื้นที่อำเภอไทรโยค ฟังผลการสอบสวน5 เม.ย. พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคงลงพื้นที่ด้วย!

วันที่ 26 มีนาคม 2562 กรณีผู้บริหารผู้สมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน(ประเทศไทย)พร้อมด้วยผู้บริหารเครื่อข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ(ส.ท.ช.)ได้ลงพื้นที่หมู่2ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 62 เพื่อตรวจสอบกรณีที่มีชาวชาติพันธุ์ได้ร้องเรียนผ่านทางสมาคมฯและเครื่อข่ายฯว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐได้เรียกรับเงินค่าดำเนินการต่อบัตร-ทำบัตรบุคคลไม่มีสถานะรายละ3000-20000 บาท จะเสียเงินมากหรือน้อยแล้วแต่กรณี เมื่อเดินทางถึงจุดนัดหมายกับได้มีชาวชาติพันธุ์ทั้งหญิงและชายประมาณ60 คน มารอทีมงานสมาคมฯซึ่งชาวชาติพันธุ์บางท่านถึงกับร้องไห้ด้วยความดีใจที่เห็นหน่วยงานลงมาช่วยเหลือและมาช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพวกตนในครั้งนี้เพราะตนเองเดือดร้อนมากรายได้ไม่ได้มีมากมายอาศัยทำไร่ทำนาพอประทังชีวิตไปวันๆต้องมาโดนเจ้าหน้าที่รัฐเรียกเก็บเงินค่าต่อบัตร-ทำบัตรชาติพันธุ์อีก พวกตนจะเอาเงินที่ไหนไปให้ถ้าไม่มีเงินให้เค้าๆก็ไม่ต่อบัตรให้ตอนนี้เดือดร้อนจริงอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองออกมาช่วยเหลือพวกตนด้วย ทางด้านนายคฑาภณ สนธิจิตร นายกสมาคมฯและรองประธานเครือข่ายฯได้กล่าวว่าหลังจากได้ลงพื้นที่ๆหมู่2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค เพื่อจะมาหาข้อมูลและข้อเท็จจริงจากชาวบ้านจึงได้ทราบความจริงและรู้สึกสงสารชาวชาติพันธุ์พวกนี้อย่างมากเพราะส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นลูกจ้างทำไร่มีรายได้วันละ200 บาทเท่านั้นบ้างคนก็ไม่ได้ประกอบอาชีพเพียงอาศัยรับจ้างไปวันๆเท่านั้นแต่ต้องมาเสียเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐอีกถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและไม่ควรกระทำอย่างยิ่งในการลงพื้นที่ของสมาคมฯในครั้งนี้ทางสมาคมฯได้หลักฐานมาหลายอย่างโดยเฉพาะคลิปเสียงที่มีการบันทึกไว้โดยในคลิปมีเสียงการสนทนากับเจ้าหน้าที่รัฐท่านหนึ่งในการต่อรองราคาในการทำบัตร-ต่อบัตรชาติพันธุ์ในครั้งนี้ด้วยซึ่งทางสมาคมฯจะเก็บหลักฐานต่างๆไว้เพื่อรอดำเนินการยื่นเรืองให้เจ้าหน้าทีต่อไปแต่จะยื่นเรืองให้กับหน่วยงานใดต้องรอผลการประชุมของผู้บริหารสมาคมฯและผู้บริหารเครือข่ายฯว่าจะยื่นเรื่องให้กับหน่วยงานใดเป็นผู้ตรวจสอบเรื่องนี้โดยนายคฑาภณยังได้กล่าวอีกว่าในวันที่4เมษายน 62 จะครบกำหนด30วันที่ทางนายอำเภอ.และศูนย์ดำรงค์ธรรม อำเภอ.ไทรโยค ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จในเรื่องนี้โดยทางผู้บริหารสมาคมฯจะลงมาฟังคำตอบผลการสอบสวนเรื่องนี้ในวันที่ 5 เมษายน 62 โดยตอนนี้ได้เตรียมประสานหน่วยงานความมั่นคงเอาไว้แล้วคาดว่าจะร่วมเดินทางลงมาฟังคำตอบเรื่องนี้พร้อมกันส่วนผลสอบสวนในเรื่องนี้จะออกมาแบบใดก็คงต้องรอฟังแต่ถ้าการสอบสวนเรื่องนี้ออกมาโดยไม่มีคนผิดทางสมาคมฯก็จะเดินหน้าเรียกร้องหาความเป็นธรรมต่อไปแต่ขอรับรองว่าทางสมาคมฯไม่ทิ้งเรื่องนี้คนทำผิดต้องโดนลงโทษ

