
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวมาตรการ “ล้างท่อ รอรับรถ” เพื่อแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เน้นขับเคลื่อน 3 มาตรการหลัก หวังลดฝุ่นละออง PM 2.5วันศุกร์ที่ 18 ม.ค.62 เวลา 10.00 น. ณ บก.จร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ ผบก.จร. , รอง ผบก.น.1 – 9 และ รอง ผบก.จร.เข้าร่วมพิธีปล่อยแถวมาตรการ “ล้างท่อ รอรับรถ” เพื่อแก้ไขปัญหา และสถานการณ์ ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน และดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีข้าราชการตำรวจจราจร บก.น.1-9 และ จร. กว่า 150 นาย พร้อมด้วยรถยกประจำ บก. และ รถที่ใช้ปฏิบัติหน้าที่ในงานจราจรและงานตรวจควันดำ รวม 21 คัน เพื่อทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดเน้นข้อหาจอดรถซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพการจราจร ในถนนที่สำคัญ 21 สายหลักทั่วกรุงเทพฯพล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. กล่าวว่า พิธีปล่อยแถวการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาจราจร และลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันนี้ ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเน้นขับเคลื่อน 3 มาตรการหลัก หวังลดฝุ่นละออง PM 2.5 คือ (1) มาตรการเร่งรัดการจราจร (2)มาตรการบังคับใช้กฎหมาย (3)มาตรการคืนพื้นผิวการจราจร

โดยได้ทำพิธีปล่อยแถวประกอบด้วยข้าราชการตำรวจจราจร 88 สน. และบก.จร. ทั้งหมดกว่า 150 นาย พร้อมรถยก เพื่อเคลื่อนย้ายรถที่จอดกีดขวางการจราจร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเป็นเวลานาน ทำให้รถปล่อยควันพิษและฝุ่นละอองดังกล่าว และเกิดการสะสมอยู่ในบรรยากาศเป็นเวลานานจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในเขตกรุงเทพมหานคร โดยจะเน้นในถนนที่สำคัญ 21 สายหลัก ซึ่ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาจราจร และลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเร่งดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวด รายละเอียดดังนี้

1. มาตรการเร่งรัดการจราจร1.1 การเข้าประจำจุดควบคุมสัญญาณไฟในช่วงเวลาเร็ว ช่วงเร่งด่วนเช้า ก่อนเวลา 06.00 น. – ช่วงเร่งด่วนเย็น ก่อนเวลา 14.30 น. 1.2 การจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดที่มีปัญหาการจราจรในพื้นที่ เพื่ออำนวยการจราจรและบังคับใช้กฎหมาย เช่น ซอยที่ตัดกระแสการจราจร, โรงเรียน, ตลาด, สถานีรถไฟ เป็นต้น 1.3 การจัดชุดปฏิบัติการ เพื่อตรวจและแก้ไขปัญหาทางแยกในพื้นที่ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน ระหว่างเวลา 11.00 – 14.30 น.2. มาตรการบังคับใช้กฎหมาย 2.1 การบังคับใช้กฎหมายตามข้อบังคับว่าด้วยการห้ามรถบรรทุกเดินรถในเขตกรุงเทพมหานคร โดยเคร่งครัด ดังนี้- รถบรรทุก 6 ล้อ ห้ามเดินรถ ระหว่างเวลา 06.00 น. – 09.00 น. และ เวลา 16.00 น. – 20.00 น. ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร รถบรรทุก 10 ล้อ ห้ามเดินรถ ระหว่างเวลา 06.00 น. – 10.00 น. และ เวลา 15.00 – 21.00 น. ในเขตกรุงเทพมหานคร 2.2 การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการนำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน เกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด มีมาตรการดังนี้ 1) มาตรการ การเพิ่มจุดตรวจควันดำ รอบกรุงเทพฯ ชั้นนอก จากจำนวน 12 จุด เป็น 20 จุด 2) เน้นการบังคับใช้กฎหมาย – พรบ.จราจร กวดขันจับกุมรถยนต์ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ (ควันดำ) เกินกว่า ค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด – พรบ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ กวดขันจับกุม รถยนต์ ขนาดเล็ก ซึ่งมีค่าควันดำเกินกว่าตรฐาน โดยติดสติ๊กเกอร์ระงับการใช้รถชั่วคราว และ ให้ปรับเปลี่ยนแก้ไขภายใน 30 วัน – พรบ.ขนส่งทางบก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ขนส่งในการตรวจวัดรถบรรทุกที่มีค่าควันดำเกินกว่ามาตรฐาน หากตรวจพบจะใช้มาตรการระงับการใช้รถ

ทั้งนี้ ในการดำเนินการทั้ง 3 พรบ. จะได้มีการรวบรวมจำนวนรถ รายชื่อผู้ขับขี่ และผู้ประกอบการ สรุปให้เห็นภาพว่า รถที่เพิกเฉยต่อมาตรการควบคุมมลพิษ มีจำนวนเท่าใด และเป็นของผู้ใด เพื่อจะได้ออกมาตรการกดดันหรือกฎหมายอื่นต่อไป 2.3 การบังคับใช้กฎหมายในข้อหาที่ส่งผลต่อปัญหาจราจร – เน้นการกวดขันจับกุมข้อหา 1) จอดรถในที่ห้ามจอด 2) จอดรถซ้อนคัน 3) จอดกีดขวางการจราจร – พิจารณาใช้มาตรการยกรถเพื่อไม่ให้รถกีดขวางการจราจร โดยกำหนดห้วงเวลาดังนี้ 1) วันที่ 18 – 24 ม.ค.62 การประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการใช้มาตรการยกรถ 2) วันที่ 25 ม.ค.62 เป็นต้นไป เริ่มดำเนินการมาตรการยกรถ
3. มาตรการคืนพื้นผิวการจราจร ให้ทุก สน. สำรวจพื้นที่การก่อสร้าง และเชิญเจ้าของโครงการและบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง มาร่วมประชุมเพื่อขอความร่วมมือในการคืนพื้นผิวจราจรในจุดที่ไม่มีความจำเป็นทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.62 เป็นต้นไป โดยจะมีการรายงานและติดตามผลการปฏิบัติมายัง ฝอ.บก.02 ทุกวัน จากปัญหามลพิษจากฝุ่นละอองในอากาศ ด้วยความหนาแน่น ความคับคั่งของการจราจรรวมถึงเขม่าควัน และฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาไหม้เครื่องจักร โดยเฉพาะเครื่องยนต์ของทั้งรถยนต์ใหม่และเก่า เกิดจากการสันดาปภายในของเครื่องยนต์ดีเซลและมีปริมาณสูงสุดช่วงรถติดมาก ๆ ส่งผลให้ฝุ่นไม่ลอยขึ้นที่สูง ตามนโยบายของรัฐบาลที่มีความห่วงใยต่อสุขภาพของประชาชน กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวดเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 จึงขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้ภารกิจสำคัญในครั้งนี้บรรลุวัตถุประสงค์ และสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จึงขอประชาสัมพันธ์ให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบโดยทั่วกัน และศึกษาข้อมูลการเดินทางในเส้นทางดังกล่าว หากมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับเส้นทางและข้อมูลจราจร สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 หรือ WWW.TRAFFICPOLICE.GO.TH




#ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ ภาพและข่าว
เสริม ศักดิ์สม รายงาน