ข่าวเด่นนิวส์สยามออนไลน์##พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม.แถลงข่าว จับพระเขมร บิณฑบาต เรี่ยไรเงินชาวบ้าน,จับหญิงไทย ปลอมดวงตราประทับ,รวบหนุ่มอินเดีย เปลี่ยนพาสปอร์ตตบตาเจ้าหน้าที่,BIOMETRICS จับพาสปอร์ตปลอม และ สตม.สรุปผลการใช้ BIOMETRICS ณ ห้องโถง ชั้น 1 ข้างอาคารจอดรถ สตม. (สวนพลู)

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม.แถลงข่าว จับพระเขมร บิณฑบาต เรี่ยไรเงินชาวบ้าน,จับหญิงไทย ปลอมดวงตราประทับ,รวบหนุ่มอินเดีย เปลี่ยนพาสปอร์ตตบตาเจ้าหน้าที่,BIOMETRICS จับพาสปอร์ตปลอม และ สตม.สรุปผลการใช้ BIOMETRICS ณ ห้องโถง ชั้น 1 ข้างอาคารจอดรถ สตม. (สวนพลู)

วันจันทร์ที่ 15 ก.ค.62 เวลา 14.00 น. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รองผบช
สตม.4 ,พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ
.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณอยุธยา ผบก.ตม.1, พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรสิริ ผบก.ตม 2 ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ดังนี้

1. กก.สส.บก.ตม.3 จับพระเขมร หลบหนีเข้าเมือง อาศัยผ้าเหลืองออกบิณฑบาต เรี่ยไรเงินชาวบ้าน
   : ด้วยเมื่อต้นเดือน ก.ค. 62 ได้มีประชาชนร้องเรียนมายัง กก.สส.บก.ตม.3 ว่ามีบุคคลคล้ายคนต่างด้าว นุ่งห่มจีวรลักษณะคล้ายพระสงฆ์ เดินบิณฑบาตอยู่บริเวณริมชายหาดหัวหินและบริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มี พฤติกรรมรัฐปัจจัย และสิ่งของจากประชาชนทั่วไป โดยบิณฑบาตเป็นเวลานานผิดปกติวิสัยของพระสงฆ์โดยทั่วไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 จึงลงพื้นที่ เพื่อดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบข้อเรียกร้องดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 14 ก.ค. 62 เวลาประมาณ 05.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้ตรวจพบพระสงฆ์ที่มีลักษณะดังกล่าวเดินบิณฑบาตอยู่ จึงติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเดินบิณฑบาตไปถึงตลาดสดเทศบาลหัวหินแล้วยืนรอรับปัจจัยและสิ่งของจากประชาชนจนถึงเวลาประมาณ 08.30 น. พระกลุ่มดังกล่าวยังยืนรอรับปัจจัยและสิ่งของอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 จึงได้แสดงตัวและควบคุมเพื่อตรวจสอบเอกสาร ปรากฏว่าพระทั้ง 3 รูป ยอมรับว่าเป็นพระสงฆ์จากประเทศกัมพูชาไม่มีหนังสือเดินทางและได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย อีกทั้งยังเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่มีประชาชนและจำนวนมาก เพื่อหารายได้จากการบิณฑบาต เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3
   จึงนำพระสงฆ์ 3 รูป ดำเนินการลาสิกขาด้วยความเต็มใจของพระสงฆ์ดังกล่าว จากนั้นก็ได้ดำเนินการจับกุมตัวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
2. ตม.จว.ชลบุรี รวบเอเย่นต์แสบ ทำดวงตราประทับและใบรับรองที่อยู่(ปลอม)ในนาม ตม.ให้ชาวต่างชาตินำไปใช้ประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการ : เมื่อวันที่ 12 ก.ค.62 เวลาประมาณ 15.30 น. ตม.จว.ชลบุรี จับกุม นางสาววิกานดา มุ่งหาเงิน อายุ 44 ปี สัญชาติ ไทย โดยกล่าวหาผู้ถูกจับว่า“ทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราหรือรอยตราของ เจ้าพนักงาน”(ป.อาญา ม.251) และ“ปลอมเอกสารราชการ”(ป.อาญา ม.265) โดยจับกุม ได้บริเวณลานจอดรถหน้าส ำนักงานชั่วคราวไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่พื้นที่หน้าที่ทำการขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขา บางละมุง หมู่ ที่ 3 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

โดย ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีผู้รับทำเอกสารปลอมสำหรับคนต่างด้าวเพื่อใช้ในการประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการเช่นใบขับขี่และ เปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับรายการทะเบียนเกี่ยวกับรถ อีกทั้งมีการปลอมดวงตราประทับของบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อประกอบในการธุรกรรมดังกล่าว ผกก.ตม.จว.ชลบุรี จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ดำเนินการสืบสวนจับกุม ชุดสืบสวนจึงสืบสวนจนทราบว่า มีหญิงใช้ชื่อเล่นนามว่า “วิคกี้” เป็นผู้รับจ้าง จึงได้วางแผนจับกุมโดยได้ติดต่อนัดหมายเพื่อขอทำเอกสารรับรองที่อยู่คนต่างชาติกับผู้ถูกจับดังกล่าว ต่อมาผู้ถูกจับได้นัดหมายให้ไปพบที่ออฟฟิตชั่วคราวของตน ซึ่งอยู่ใกล้กับที่ทำการขนส่งบางละมุง เมื่อถึง เวลานัดหมายผู้ถูกจับได้ขับรถส่วนตัวเข้ามายังบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบพบนางสาววิกานดาหรือวิคกี้ มุ่งหาเงิน (ผู้ถูกจับ) เป็นผู้ขับขี่ จากการตรวจสอบภายใน รถยนต์คันดังกล่าวพบตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปลอม จำนวน 5 อัน และเอกสารต่าง ๆ จำนวนหนึ่ง จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี ซึ่งต่อมานางวิกานดาฯ (ผู้ถูกจับ) ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมเข้าตรวจสอบภายในออฟฟิตพบเอกสารรับรองที่พักอาศัยของคนต่างด้าวปลอมอีกจำนวนมาก ซึ่ง เอกสารดังกล่าวบางส่วนพร้อมสำหรับใช้ในการยื่นขอใบอนุญาตใบขับขี่ หรือเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์รถ ให้กับคนต่างด้าว และยังพบรอยตราประทับบริษัท และห้างร้านเอกชนอีกจำนวนมากจึงได้ตรวจยึดไว้ จากนั้นผู้ถูกจับได้พาชุดจับกุมไปทำการตรวจยึดตราประทับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปลอมอีก จำนวน 3 อัน ที่บ้านพักเลขที่ 88/437 หมู่บ้านกลางสวนตะเคียนเตี้ย หมู่ที่ 2 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากการสอบถามผู้ถูกจับรับว่าเอกสารหนังสือรับรองที่พักอาศัยของคนต่างด้าว ซึ่งเจ้าพนักงาน ตรวจยึดไว้เป็นของกลางนั้นตนได้รับจ้างปลอมขึ้นให้กับลูกค้าชาวต่างชาติมีทั้งสัญชาติรัสเซีย ยูเครน จีน เวียดนาม นอร์เวย์ สวีเดน โปแลนด์ เบลเยี่ยม อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ โดยใช้คอมพิวเตอร์และ เครื่องพิมพ์ที่ตรวจยึดไว้ในการปลอมเอกสารและใช้ดวงตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จัดทำปลอมขึ้นมาประทับลงในเอกสารดังกล่าว อีกทั้งยังได้ปลอมลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาต โดยคิด ค่าบริการรายละ 1,000 – 3,000 บาท จึงได้ทำการตรวจยึดและนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลาง ทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

1. ตม.ชลบุรี ใช้ BIOMETRICS รวบหนุ่มอินเดีย เปลี่ยนพาสปอร์ตใหม่หวังตบตาเจ้าหน้าที่ พบเคยถูกจับ overstay และติดแบล็คลิสต์ในระบบ ห้ามเข้า 10 ปี : เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2562 เวลาประมาณ 11.20 น. ตม.จว.ชลบุรี ได้จับกุมตัว นาย MANEESH อายุ 30 ปี สัญชาติอินเดีย พฤติการณ์กล่าวคือ ผู้ถูกจับได้เข้ามายื่นขออยู่ต่อและเปลี่ยน ประเภทวีซ่าที่ ตม.จว.ชลบุรี เพื่อเปิดบริษัทประกอบธุรกิจในประเทศไทย จากการตรวจสอบผ่านระบบ Biometrics พบว่าเป็นบุคคลเดียวกับ นาย MANISH อายุ 29 ปี (เกิดเมื่อ 1 ม.ค.1990) สัญชาติอินเดีย ซึ่งได้ถูกจับกุมในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 1,549 วัน) และ ได้ถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรแล้วแต่วันที่ 8 ก.ย.2561 โดยมีคำสั่งห้ามเข้ามา ราชอาณาจักรตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ 1/2558 ลง 27 พ.ย.2558 ห้ามมิ ให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นเวลา 10 ปี คือถึงวันที่ 8 ก.ย.2571 หลังตรวจสอบจนเป็นที่แน่ชัดและผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่าต้องการกลับเข้ามาเพื่อทำงานในประเทศไทย จึงได้จับกุมตัวในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม ขัดขืน หรือไม่ยอมรับทราบคำสั่งรัฐมนตรี ฯ ” อันเป็น ความผิดตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 82 และได้ทำการเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท พร้อมทั้งได้เพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร และผลักดันออกนนอกราชอาณาจักรต่อไป
2. BIOMETRICS เจ๋ง บก.ตม.2 จับพาสปอร์ตปลอม 5 คดีรวด : โดยในช่วงที่ผ่านมามีผลการ ปฏิบัติที่น่าสนใจ ดังนี้
3. จับหนุ่มใหญ่ชาวเมียนมาร์ ปลอมพาสปอร์ตมาเลเซียและตราประทับ ตม.ไทย วันที่ 24 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Soe อายุ 47 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ขณะแสดงหนังสือเดินทางประเทศมาเลเซียปลอม ต่อฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจะเดินทางไปเมืองมะนิลา ประเทศ ฟิลิปปินส์ โดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้สังเกตถึงความผิดปกติของลักษณะหนังสือเดินทาง และรอยตราประทับด่าน ตม.สะเดา ที่แตกต่างจากตราจริง ประกอบกับเมื่อนำหนังสือเดินทาง ตรวจสอบโดยระบบBiometrics พบว่าใบหน้าในระบบแตกต่างจาก Mr.Soe ซึ่งจากการสอบสวน ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพว่าตนเป็นชาวเมียนมาร์ต้องการเดินทางไปฟิลิปปินส์ และใช้หนังสือ เดินทางปลอมมาเลเซียจริง แต่ไม่ได้ให้เหตุผลที่ใช้หนังสือเดินทางปลอมดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
4. จับ 2 โกตดิวัวร์ ปลอมพาสปอร์ตมอริเชียส วันที่ 10 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่กองกำกับ การสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Akouani อายุ 21 ปี และ Miss Fofana อายุ 22 ปี สัญชาติโกตดิวัวร์ ขณะแสดงหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสเช็คอิน สายการบิน Lufthansa พบบุคคลต่างด้าวต้องสงสัยแสดงหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียส เช็คอิน เที่ยวบิน LH773 เส้นทาง กรุงเทพ-เมืองแฟรงก์เฟิร์ต และเมื่อทำการตรวจสอบโดยระบบ Biometrics พบว่าระบบไม่สามารถอ่านไมโครชิพ ซึ่งฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ ประกอบกับทั้ง 2 ราย ให้การสารภาพว่า ตนมิได้เป็นคนมอริเชียส แต่เป็นบุคคลสัญชาติโกตดิวัวร์ มีชายไม่ทราบชื่อสกุล สัญชาติโกตดิวัวร์ เป็นผู้จัดหาหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสปลอม โดยเสียค่าใช้จ่ายเล่มละ 200 ยูโร หรือประมาณ 7,000 บาท เพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงานที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เนื่องจากหนังสือเดินทางประเทศมอริเชียสสามารถใช้ในการเดินทางไปยุโรปโดยไม่ต้องขอวีซ่า เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
5. จับหนุ่มอินเดีย ปลอมพาสปอร์ตสิงคโปร์ วันที่ 23 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่กองกำกับการ สืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม Mr.Amith อายุ 41 ปี ขณะแสดง หนังสือเดินทางประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอรับการตรวจออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะเดินทางโดยสายการ AIR CHINA ไปเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ผ่านเม็กซิโก ปลายทางประเทศแคนาดา และเมื่อทำการ ตรวจสอบโดยระบบ Biometrics พบว่าระบบไม่สามารถอ่านไมโครชิพ ซึ่งฝังอยู่ในหนังสือเดินทางได้ ทำให้ผู้ต้องหารับสารภาพว่า มีชายทราบชื่อ BABA ชาวเนปาล เป็นผู้จัดหาหนังสือเดินทางประเทศ
   สิงคโปร์ปลอม โดยเสียค่าใช้จ่ายเล่มละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 30,720.-บาท เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
6. จับหนุ่มไร้สัญชาติ ปลอมพาสปอร์ตไต้หวัน วันที่ 14 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่กองกำกับ การสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุมนาย เหลียง เจิม โบ อายุ 32 ปี ไม่ทราบสัญชาติ ขณะแสดงตนเข้ารับการขอตรวจลงตรา เพื่อเข้าสู่ราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่ฯ พบพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจสอบ โดยใช้เครื่องตรวจสอบหนังสือเดินทาง VSC 6000 และ Verifier TD&B ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ตรวจสอบจากคุณลักษณะนิรภัยของหนังสือเดินทาง และตัวอย่าง Specimen หนังสือเดินทาง TAIWAN เปรียบเทียบ พบว่ามีการปลอมแปลงหน้าข้อมูลบุคคล หนังสือเดินทาง (Counterfeit Bio Data Page) จากการสอบสวนผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพว่า ได้จ่ายค่าดำเนินการจำนวน 20,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 600,000 บาท ให้แก่ ชายชาวไต้หวันไม่ทราบชื่อ เพื่อใช้เดินทางเข้าไทย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.สภ.ท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
7. จับหญิงจีนมีหมายแดงกลางสนามบินภูเก็ต ไม่รอด Biometrics! : วันที่ 12 ก.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ได้จับกุม MS.li สัญชาติจีน อายุ 40 ปี ขณะแสดงตนขอเดินทางออกราชอาณาจักรที่ ฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองขาออก ท่าอากาศยาน นานาชาติภูเก็ต ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบผ่านระบบ Biometrics ก็พบว่าระบบได้ทำการ แจ้งเตือนว่าบุคคลดังกล่าว เป็นบุคคลที่ทาง สอท. สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทยและ หัวหน้าผู้แทนกระทรวงสาธารณะความปลอดภัย (MPS) ของจีนประจำกรุงเทพฯ ได้ขอความร่วมมือให้ จับกุม เนื่องจากเป็นบุคคลตามหมายจับ โดยถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดี การฝากเงินของ
   ประชาชน โดยได้รับเงิน 100 ล้านหยวน อย่างผิดกฎหมายและเป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัว เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัว นำส่ง พงส.บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
8. สตม.สรุปผลการใช้ BIOMETRICS ในภาพรวม ตั้งแต่ 1 พ.ค.-ปัจจุบัน : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดทำโครงการบริหารจัดการฐานข้อมูลภาพถ่ายใบหน้า และลายพิมพ์ นิ้วมือแบบบูรณาการทั่วประเทศ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพงานตรวจคนเข้าเมือง

ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ ภาพ/ข่าว

เสริม ศักดิ์สม รายงาน