พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงข่าว ตม.หนองคาย “รวบแชมป์มวยตูนิเซีย ข่มขืนกระทำชำเราหญิง” และ “รวบเอเย่นต์ ตุ๋นเหยื่อหลายรายไปทำงานญี่ปุ่น”
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30 น. ณ โรงแรมสุนีย์ แกรนด์โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ จ.อุบลราชธานี :
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.ชัยยศ วรักษ์จุนเกียรติ รอง ผบก.ฯ และ พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงผลการจับกุม ดังนี้
คดีที่ 1 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 ตม.จว.หนองคาย ได้รับการประสานข้อมูลจาก สภ.พัทยา ให้เฝ้าระวังบุคคลต่างด้าว 1 รายคือ MR.MAHMOUD อายุ 19 ปี สัญชาติตูนิเซีย ซึ่งได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.ออนซ์ อายุ 15 ปี สัญชาติตูนีเซีย เหตุเกิดที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.พัทยา หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ในทางคดีมารดาของผู้เสียหายได้พาผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ ในความผิดฐาน“ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น” และพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ ที่ 311/2562 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2562 ต่อมาจากข้อมูลการข่าวทราบว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไป สปป.ลาว ตม.จว.หนองคาย จึงได้วางกำลังเฝ้าดูและทำการสืบสวนโดยระบบ Biometrics จนกระทั่งทราบและพบตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.หนองคาย จึงได้แสดงหมายจับแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวนำส่ง พงส.สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2562 ตม.จว.หนองคายได้รับการประสานข้อมูลจาก สภ.สว่างแดนดิน ให้เฝ้าระวังและติดตามจับกุมผู้ต้องหาซึ่งก่อเหตุหลอกลวงผู้เสียหายในพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ไปทำงานการเกษตรที่ประเทศญี่ปุ่นและจากการหลอกลวงได้เงินจากผู้เสียหาย จำนวน 230,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม จนกระทั่งต่อมา ตม.จว.หนองคาย ได้ดำเนินการสืบสวนโดยใช้ระบบ Biometrics และติดตามเฝ้าดูจนกระทั่งพบตัว น.ส.เนตรนภา ในพื้นที่ จว.หนองคาย จึงได้ขอตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสว่างแดนดิน ที่ 78/2561 ลงวันที่ 27 ก.ย.2561 ข้อหา “จัดหางานให้คนงานเพื่อไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลาง หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานหรือสามารถส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้ฯ” จึงแจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป นอกจากนั้น จากการขยายผลยังพบว่าผู้ต้องหายังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดมหาสารคามที่ 46/2562 ลงวันที่ 12 มี.ค.2562 อีกคดีหนึ่งในข้อหาเดียวกัน กล่าวคือได้มีการหลอกลวงผู้เสียหายอีก 2 ราย ในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อไปทำงานติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้ทรัพย์สินจากการหลอกลวง ได้เงินจากผู้เสียหายจำนวน 130,000 บาท โดยทั้งสองกรณีนี้ เหยื่อทุกรายไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นตามที่ถูกชักชวนหรือแนะนำแต่อย่างใด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและจับกุมปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิติทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
เสริม ศักดิ์สม ภาพ
ธวัชชัย เฟืองอนันต์ ข่าว
