
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงข่าว สตม.รวบ!! แก๊งปั่นหุ้นชาวจีนยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและโทรศัพท์มือถือกว่า 300 เครื่อง”

วันพุธที่ 4 กย.62 เวลา 09.30 น. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7/ปรก.สตม., พ.ต.อ.ปฎิญญา จีรชนาสิน ผกก.4 บก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าว กก.4 บก.สส.สตม. รวบ!! แก๊งปั่นหุ้นชาวจีน 58 คน เนียนใช้วีซ่านักท่องเที่ยว แอบลักลอบทำงานในไทย ยึดของกลางเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและโทรศัพท์มือถือกว่า 300 เครื่อง
ณ ห้องมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู)พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องควบคุมกำกับดูแลชาวด่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกระทำผิดกฎหมายเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอตภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวเข้ามาก่อเหตุกับคนไทยและชาวต่างชาติโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2562 ชุดสีบสวนกองกำกับการ4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ได้รับคำสั่งให้สืบสวนติตตามกลุ่มบุคคลชาวจีนที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน
ในการกระทำผิดหรือ หรือใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งที่พักในการหลบหนีคดี พ.ต.อ.ปฎิญญา จีรชนาสิน ผกก.4 บก.สส.สตม. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการ4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มชาวจีน จำนวนหลายคนเข้ามาพักอาศัยอยู่บริเวณแถวลาดพร้าว และมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัย ชุดสืบสวนจึงได้รายงานให้กับทางผู้กำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทราบ ซึ่งทางผู้กำกับการ 4 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนทำการสืบสวน เฝ้าติดตาม และขยายผลเพิ่มเติม โดยจากการสืบสวนและเฝ้าติดตาม พบว่า เป็นกลุ่มชาวจีน ที่เข้ามาเช่าห้องพักที่โรงแรม APPLE HOLIDAY ในชั้นที่ 6 และ ชั้นที่ 7 ซอยลาดพร้าว 101 แยก 21 แขวงคลองเจ้าสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยคือจะไม่ออกไปข้างนอก ซึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่สืบสวนได้ทำการสืบสวนในเชิงลึกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน พบว่ากลุ่มชาวจีนดังกล่าวน่าจะเข้ามากระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค เมื่อทราบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลอาญารัชดาและได้ร่วมกับกองกำกับการปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ และสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว เข้าทำการตรวจค้น เมื่อทำการตรวจค้นพบกลุ่มชาวจีน จำนวน 58 คน ได้ทำการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ พูดคุยกับลูกค้าที่หลงเชื่อและถูกดึงเข้ามาในกลุ่มแชท (WECHAT) ของแก๊งผู้ต้องหา ซึ่งแก๊งผู้ต้องหาจะมีการจัดการให้ลูกค้าหลงเชื่อว่าหุ้นตัวไหนที่ดีเหมาะแก่การลงทุน โดยจะมีผู้ต้องหาคนอื่นแสดงเป็นอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ในการให้ข้อมูลกับลูกค้าที่หลงเชื่อและจะมีผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่งแสดงตนเป็นคนคอยสนับสนุนความน่าเชื่อถือของอาจารย์หรือผู้เชี่ยวชาญ จากการ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีจำนวนกลุ่ม WECHAT กว่า 100 กลุ่มจากการสอบถาม กลุ่มคนร้ายสารภาพว่ามีกลุ่มนายทุนคนจีน ได้ว่าจ้างให้ตนเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยจะให้ค่าจ้าง จำนวน 6,000 หยวน หรือประมาณ 30,000 บาท ซึ่งตกลงค่าจ้างให้ในช่วงสิ้นเดือนหลังจากที่ได้เริ่มทำงาน เจ้าหน้าที่สืบสวนได้ตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดไม่มีหนังสืออนุญาตให้ทำงานในราชอาณาจักรไทย จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีในส่วนของเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตและถือได้ว่าเป็นบุคคลมีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมฯ จึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมกักตัวไว้ที่ห้องกัก สตม. เพื่อรอผลักดันส่งกลับสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อไป

จากการตรวจสอบห้องพักที่ใช้เป็นห้องทำงาน พบของกลางเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น โทรศัพท์มือถือ จำนวนกว่า 200 เครื่อง, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จำนวน 40 เครื่อง แผ่นกระดาษและสมุดจดบันทึกเป็นภาษาจีน (บันทึกการปฏิบัติในแต่ละวัน) จำนวนมาก ซึ่งของกลางในส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำการร่วมตรวจสอบและหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งในส่วนของความผิดที่เกี่ยวกับกฎหมายประเทศไทยและที่เป็นความผิดเกี่ยวกับกฎหมายในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ผบช.สตม. กล่าวในที่สุด




