ข่าวเด่นนิวส์สยามออนไลน์##นายกฯ” เปิดประชุมอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 ผลักดันนวัตกรรม สร้างพลังงานสะอาด หมุนเวียน เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม 

0
1197

นายกฯ” เปิดประชุมอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 ผลักดันนวัตกรรม สร้างพลังงานสะอาด หมุนเวียน เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม 

วันพุธที่ 4 กันยายน 2562 เวลา 09.30 น. ที่ห้องคริสตัล เอ โรงแรม ดิ แอทธินี กรุงเทพฯ :
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 “Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation” และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย โดยมี รัฐมนตรีพลังงานจากประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา รองเลขาธิการอาเซียน ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ  ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ ตัวแทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน และองค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมพิธี

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดการประชุมว่า ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญของประเทศไทย และมีความหมายอย่างยิ่งต่อประชาชนชาวไทย เนื่องด้วยเป็นปีที่มีพระราชพิธีมหามงคลหลายพิธี รวมทั้งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียน และเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ในฐานะรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ขอต้อนรับผู้มีเกียรติทั้งหลาย และหวังว่าแม้ทุกท่านจะอยู่ในประเทศไทยในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทุกท่านก็คงได้รับความสุข ประเทศไทยพร้อมต้อนรับทุกท่านเสมอ และตลอดไป 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า ภูมิภาคอาเซียนจะต้องเผชิญกับความท้าทายในภาคพลังงานเป็นอย่างมาก ซึ่งพลังงานเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาสังคม และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยแนวทางผลิตและการใช้พลังงานของแต่ละประเทศจะถูกกำหนดด้วยความสามารถในการปรับตัวต่อความท้าทายทางพลังงานตามแต่สถานการณ์ของแต่ละภูมิภาค 
ซึ่งช่วงในเวลานี้ เรากำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของกระแสของโลกในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน  และกำลังก้าวเข้าสู่ยุคพลังงานแห่งอนาคต ภูมิภาคอาเซียนของเรามีความต้องการพลังงานมากขึ้นทุกวัน เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรวดเร็ว พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนอาจจะเป็นพลังงานหลักต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ ดังนั้นการพัฒนาตลาดและการลงทุนด้านพลังงาน รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานแห่งอนาคต ทั้งในส่วนของเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่ใช่ฟอสซิล จึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า ในฐานะเจ้าภาพอาเซียน ไทยได้ผลักดัน Key Deliverables ของประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียนได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยผลการศึกษาที่เกิดขึ้น จะเป็นข้อมูลและแนวทางสำหรับการวางนโยบายและกรอบความร่วมมือของอาเซียนต่อไปในอนาคต อาทิ ในด้านไฟฟ้ามีการยืนยันการเพิ่มปริมาณการซื้อขายไฟฟ้าจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านราชอาณาจักรไทย ไปยังสหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งจะสามารถสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อการขยายความร่วมมือสู่ประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ที่สนใจเข้าร่วมโครงการในอนาคต ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างศักยภาพการเชื่อมโยงพลังงานไฟฟ้าในอาเซียน และนอกจากนี้ ผลการศึกษาและข้อเสนอแนะต่างๆ เช่น ข้อเสนอแนะเรื่องการศึกษาโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กเพื่อรองรับก๊าซธรรมชาติ (Small-scale LNG) แนวทางการส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนในโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน จะช่วยกำหนดทิศทางและกิจกรรมที่ควรจะดำเนินการในอนาคต เพื่อให้อาเซียนสามารถบรรลุเป้าหมายตามแผนปฏิบัติการด้านพลังงานอาเซียน (ASEAN Plan of Action on Energy Cooperation) ในด้านการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายและตลาดการซื้อขายก๊าซธรรมชาติในอาเซียน ส่วนในด้านการพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดนั้น อาเซียนได้เห็นชอบร่วมกันในการผลักดันเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนให้ถึงร้อยละ 23 ในปี 2025 และการปรับมาตรฐานด้านประสิทธิภาพพลังงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน และการผลิตและใช้พลังงานอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนต่อไป 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ในส่วนของอนาคตทางพลังงานนั้น ปัจจัยที่จะส่งผลให้เกิดพลังงานแห่งโลกอนาคต นั่นคือ พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน ซึ่งจะสามารถขับเคลื่อนโดยระบบพลังงานแบบกระจายศูนย์ การผลิตพลังงานในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า และการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน ดังนั้นการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานสมัยใหม่โดยมีพลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานหลัก จึงไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังพัฒนาความเป็นอยู่และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนชน และยังช่วยลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้นแนวคิดหลักของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 หรือ 37th AMEM ใน ปีนี้ คือ Advancing Energy Transition Through Partnership and Innovation ซึ่งหมายถึง การมุ่งเน้นความร่วมมือ ร่วมใจ เพื่อพัฒนานวัตกรรมพลังงานอาเซียนในยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานให้เข้าสู่ยุคพลังงานที่มีความยั่งยืน ซึ่งเป็นการมุ่งเน้นความร่วมมือของกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจาในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อให้ภูมิภาคอาเซียนสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาดที่มีความยั่งยืนในอนาคตจึงเป็นหัวข้อที่เหมาะสมและทันต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน

พลเอกประยุทธ นายกฯ กล่าวย้ำอีกว่า หวังว่าทุกท่านจะมีความสุข ในระหว่างที่พำนักในประเทศไทย ประเทศไทยยินดีต้อนรับทุกท่านเสมอ และขอให้จดจำรอยยิ้มสยามของตนไว้ด้วย  เพราะคนไทยชอบยิ้ม ต่อให้งานหนักแค่ไหนอย่างไร ก็ยิ้มไปก่อน เพราะจะได้มีกำลังใจในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ตนมีภารกิจต้องไปเรื่องประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือในช่วงบ่าย โดยไป 2 จังหวัดภาคเหนือ ช่วงนี้พายุกำลังเข้าแต่ก็คงผ่านหลายประเทศมาเหมือนกัน แต่ละประเทศก็ได้รับปัญหามากเหมือนกัน นี่เป็นเพราะโลกเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพลังงานด้วยในอนาคตในเรื่องพลังงานจากน้ำเหล่านี้เป็นปัญหาหมด เรื่องการผลิตน้ำจากเขื่อน ทั้งนี้ประเทศไทยประสบปัญหาเนื่องจากฝนตกใต้เขื่อน ซึ่งเขื่อนของเราสร้างมาก่อนแล้ว 20-30 ปี  สมัยก่อนน้ำเต็ม แต่สมัยนี้ฝนตกเลื่อนลงมาข้างล่างเรื่อยๆ นั้นคือ ปัญหา ที่เราต้องแก้ในอนาคตเพื่อให้เกิดความยั่งยืน  เพราะประชาชนเกิดความทุกข์เสียหายเสียหาย เกษตรกรเสียหายเราต้องดูแลอย่างเต็มที่ เพราะเราต้องบริหารประเทศที่เรียกว่า ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เขาเดือดร้อน เราต้องดูแลสร้างความเข้มแข็งให้ เรียกว่า เพิ่มขีดความสามารถให้สูงขึ้น เพราะจะมีผลกระทบด้านเศรษฐกิจด้วย ซึ่งวันนี้เศรษฐกิจก็กำลังมีปัญหาอยู่เหมือนกัน ตนคิดว่า ทุกคนได้รับผลกระทบทั้งสิ้น เพียงแต่เราต้องช่วยเหลือกันได้อย่างไร  
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ดีใจไม่ว่า ประเทศที่อยู่ในอาเซียนด้วยกัน หรือประเทศที่อยู่ไกลออกไปและที่เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของประเทศไทยได้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเรื่องของเศรษฐกิจไปด้วยกัน อาเซียนวันนี้มูลค่าทางการค้าขายเศรษฐกิจชายแดน มีมูลค่าสูงขึ้นรอบด้านของประเทศไทย จึงอยากให้ทุกท่านช่วยกันนำพาสิ่งเหล่านี้ไป นี่คือสิ่งที่อาเซียนจะกันในสถานการณ์ที่มีผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในวันนี้ ถ้าอาเซียนไม่ช่วยกันไม่ซื้อขายระหว่างกันมันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ดังนั้นนี่คือสิ่งที่จะช่วยลดผลกระทบลงได้  ขอขอบคุณทุกประเทศด้วยในด้านเศรษฐกิจ ตนยินดีร่วมมือทุกประการ เดี๋ยวพูดไปจะไปนอกเรื่องอีกแล้ว ดีใจเจอพวกเราเพื่อนๆหลายๆท่านเป็นยังเจเนอเรชั่น สมาร์ทเจนเนอเรชั่น และมีอาวุโส ตนก็อาวุโส ผู้สูงวัย  ฉะนั้นต้องไปด้วยกันทิ้งใครไม่ได้  วันนี้ประชาชนรอการทำงานของเราว่าจะเกิดประโยชน์ได้อย่างไร โดยเฉพาะด้านพลังงานทำอย่างไรจะได้ใช้พลังงานราคาถูก แต่มีความมั่นคงมีเสถียรภาพ และคิดว่าการประชุมครั้งนี้จะได้ข้อสรุปออกมาว่าจะเดินหน้าอย่างไร เป็นยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของเราต่อไปในอนาคตซึ่งตนทราบว่ามีการทำแผนตรงนี้และสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติของไทยด้านพลังงาน

โดยมี พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5, พ.ต.อ.อนุวัตร สุวรรณภูมิ รอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.กัมพล รัตนประทีป ผกก.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมออกปฏิบัติภารกิจ รปภ.นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน ครั้งที่ 37 (37th AMEM) ณ ห้องคริสตัล ฮอลล์ ชั้น 3 โรงแรม ดิ แอทธินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ราย ภาพ/ข่าว

เสริม ศักดิ์สม รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here