พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงข่าว
ไบโอเมทริกซ์เจ๋ง!!! ตม.สนามบิน จับพาสปอร์ตปลอม 8 รายรวด ในรอบสัปดาห์!!!
วันเสาร์ที่ 14 ก.ย.62 เวลา 15.30 น. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อินธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.(3), พ.ต.อ.จักรทิพย์ ศตพิมลศักดิ์ รอง ผบก.ศท
ตม., พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.สส.บก.ตม.2 ร่วมแถลงข่าว ไบโอเมทริกซ์..เจ๋ง!!! ตม.สนามบิน จับพาสปอร์ตปลอมรวด 8 ราย ในรอบสัปดาห์!!! ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู)
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาล พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยในประเทศไทย โดย พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีหมายจับตำรวจสากล หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในขณะที่ทำนักในประเทศไทย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่ก่ออาชญากรรมในประเทศต่างๆ แล้วใช้ประเทศไทยเป็นแหล่งหลบซ่อนกบดาน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยระบบไบโอเมตริกคือเป็นระบบที่ทันสมัยตรวจจับใบหน้า (หู,ตา,จมูกและปาก) ทำให้ ตม.2 สามารถจับ ผู้ต้องหาได้ 8 รายลวดในรอบสัปดาห์
พันตำรวจเอก เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 15.00 น พันตำรวจเอกเกติ์ฉกาศ นิลประดับ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้รับรายงานจาก พันตำรวจเอก เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.กก.สส.ปป.ตม.2 ว่า 3 วันที่ผ่านมา กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 มีผลการจับกุมคดีสำคัญจำนวน 8 รายดังนี้
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 08.00 น จับกุมครอบครัวชาวอิหร่าน 3 ราย (พ่อและลูก) ใช้หนังสือเดินทางประเทศกรีซปลอมเพื่อใช้ในการเดินทางไปขอลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษ โดยพ่ออ้างว่าติดต่อนายหน้าชาวอิหร่าน เพื่อจัดหาเอกสารเดินทางค่าใช้จ่ายประมาณ 500 ยูโร หรือประมาณ 1,700,000 บาท โดยชำระล่วงหน้า 20,000 ยูโร ที่ประเทศอิหร่านและเดินทางมารับหนังสือเดินทางที่ประเทศตุรกีได้ชำระส่วนที่เหลืออีก 30,000 ยูโร ก่อนจะเดินทางมาประเทศไทยเพื่อใช้หนังสือเดินทางปลอมเล่มดังกล่าวในการเดินทาง และเวลาประมาณ 12.20 น. ของวันเดียวกัน สามารถจับกุมหนุ่มอิหร่านได้อีก 1 รายโดย ใช้หนังสือเดินทางประเทศกรีซ เพื่อใช้ในการเดินทางไปขอลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษเช่นกัน โดยรายนี้ติดต่อนายหน้ารับหนังสือเดินทางที่ประเทศตุรกี และเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 ยูโรหรือประมาณ 136,000 บาท โดยหนังสือเดินทางจำนวน 2 ใน 4 ระบบ ไบโอแมทริกซ์แจ้งเตือนว่าเป็นหนังสือเดินทางที่ถูกขโมยจากฐานข้อมูลของอินเตอร์โฟลว์ เรียบร้อยแล้ว จับกุมอิหร่านทั้ง 4 รายในข้อหาใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางพร้อมหนังสือเดินทางประเทศกรีซฟอร์มนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดี
ต่อมาวันที่ 12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 08.30 น จับกุมชายชาวซีเรียและหญิงปาเลสไตน์จำนวน 3 ราย บินมาจากกรุงอาบูดาบีใช้หนังสือเดินทางประเทศสวีเดนหน้าเหมือนในการเดินทางเข้าประเทศเพื่อแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว ก่อนที่จะใช้หนังสือเดินทางหน้าเหมือนเดินทางไปขอลี้ภัยยังประเทศที่สาม โดยทั้ง 3 รายติดต่อนายหน้าที่ประเทศอิหร่าน มีค่าใช้จ่ายคนละ 12,500 ยูโร หรือประมาณคนละ 375,000 บาท ซึ่งชำระล่วงหน้าคนละ 2,500 ยูโรหรือประมาณคนละ 70,000 บาท เมื่อครั้งติดต่อรับเล่มและจะชำระส่วนที่เหลือ เมื่อสามารถเดินทางไปยังประเทศที่สามสำเร็จโดยระบบไบโอเมตริกอ่านค่าความเหมือนเปรียบเทียบภาพถ่ายจากชิปที่ฝังอยู่ในหนังสือเดินทางพาสปอร์ตกับภาพผู้โดยสารพบว่ามีเปอร์เซ็นต์ความเหมือนกันต่ำ โดยผู้โดยสารมีใบหน้าหูตาจมูกและปากแตกต่างจากภาพที่จัดเก็บ จึงทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหาใช้หนังสือเดินทาง ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชนนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 เวลาประมาณ 09.30 น.
จับกุมชาวผิวดำสัญชาติไนจีเรียใช้หนังสือเดินทางแอฟริกาใต้ปลอมเดินทางมาจากประเทศตุรกีเปลี่ยนเครื่องที่ประเทศกาตาร์ก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อแสงตัวเป็นนักท่องเที่ยวก่อนที่จะใช้หนังสือเดินทางปลอดภัยเพื่อนลักลอบไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้รับหนังสือเดินทางจากในหน้าชาวแอฟริกาใต้เสียค่าดำเนินการประมาณ 600 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 18,000 บาท โดยระบบไบโอเมตริกแจ้งเตือนความผิดปกติของหนังสือเดินทางว่า หนังสือเดินทางเล่มนั้นอาจเป็นหนังสือเดินทางปลอม กก.สส.ปป.บก.ตม.2 จึงจับกุมชายคนดังกล่าวในข้อหาใช้หรือมีไว้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอดภัยเดินทางประเทศกรีซปลอม นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิดำเนินคดีต่อไป
พันตำรวจเอก เชิงรณ รอง ผบก.ตม.2 กล่าวทิ้งท้ายว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายมาตรการตามนโยบายของ พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ซึ่งได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรีพฤกธิพงษ์ฯ สั่งการให้ทุกระดับเพิ่มความเข้ม พร้อมให้ดำเนินการประสานข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยความมั่นคงต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร รวมถึงการแสวงหาและประสานงานกับหน่วยงานข้างเคียงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บก ตม. 2 ได้ดำเนินการจัดการประชุมประชาคมข่าว เพื่อติดตามข้อมูลด้านการข่าวเพื่อนำมาสังเคราะห์และกำหนดแผนในการเฝ้าระวังกลุ่มขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากประชาชนพบคนต่างด้าวที่มีท่าทางพิรุธอาจจะเข้ามากระทำความผิดสามารถแจ้งหรือสอบถามผ่านสายด่วน 1178 หรือกองสสวทป 2 ตามหมายเลข 02 134 0303 ตลอด 24 ชั่วโมง
ธวัชชัย เฟื่องอนันต์ ภาพและข่าว
เสริม ศักดิ์สม รายงาน
