
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. แถลงผลการจับกุมอาชญากรรมข้ามชาติของ บก.ตม.5

วันอังคารที่ 9 ก.พ.64 เวลา 10.30 น. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม 5, พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รอง ผบก.ตม.5, พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.5 และ พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน, พ.ต.ท.ณฐกร สุวรรณรัตน์ สว.ด่านตม.เชียงแสน, พ.ต.ท.กิตติธร ยาตเกลี้ยง รอง ผกก.สส.บก.ตม.5 และ ร.ต.อ.พิชญ์พัชระ พิชญนันทร์ รอง สว.ด่าน ตม.เชียงแสน
ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมอาชญากรรมข้ามชาติของ บก.ตม.5 ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น1 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) ดังนี้
คดีที่1.ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จับกุมคนไทย 2 คน ลักลอบขนคนต่างด้าวสัญชาติจีนหลบหนีเข้าเมือง 3 ราย รวม 5 ราย :
1. เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน และเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้สืบทราบว่าจะมีการขนคนต่างด้าวจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้านอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จึงทำการสืบสวนพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอจูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน พิษณุโลก มีกลุ่มคน จำนวน 3 คน กำลังขึ้นรถคันดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบคนต่างด้าวสัญชาติจีน 3 ราย คือ 1. MR.CAI (นายไช) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน 2. MR.SU (นายซู) อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน 3. MR.LI (นายลี) อายุ 28 ปี สัญชาติ จีน (ทราบชื่อภายหลัง) ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนหนังสือเดินทางมาแสดงแต่อย่างใด ได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยพาหนะเรือมาจาก สปป.ลาว ผ่านบริเวณช่องทางธรรมชาติบ้านสวนดอก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย โดยมี นายธาราพงค์ อายุ 46 ปี สัญชาติไทย เป็นคนขับพาหนะดังกล่าว จากการสอบปากคำ นายธาราพงค์ ในเบื้องต้น ผู้ถูกจับ ได้ให้ถ้อยคำว่า ได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นฟอจูนเนอร์ สีเทา ทะเบียนพิษณุโลก มารอรับคนต่างด้าวไปส่งยัง จว.สระแก้ว โดยคิดค่าจ้าง จำนวน 15,000 บาท ต่อเที่ยว จึงจับกุมและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซว จว.เชียงราย ดำเนินคดี
โดยกล่าวหา นายธาราพงค์ ว่า “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และกล่าวหา คนสัญชาติจีนทั้ง 3 ราย กล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ.2558) เหตุเกิด บริเวณบนถนนใกล้กับช่องทางธรรมชาติบ้านสวนดอก อ.เชียงแสน จว.เชียงราย
2. ตามข้อ 1. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้ทำการสืบสวนขยายผล ทราบว่าบุคคลที่นำคนต่างด้าวสัญชาติจีนทั้ง 3 ราย ข้ามมาจาก สปป.ลาว คือนายณรงค์ อายุ 48 ปี สัญชาติไทย อยู่บ้านใน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จว.เชียงราย พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซว ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเชียงราย ในข้อหา รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ต่อมาได้นำหมายจับศาลจังหวัดเชียงราย ที่ 9/2564 ลง 25 ม.ค.64 เข้าจับกุมตัวนายณรงค์ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม จึงได้ควบคุมตัว นำส่ง พงส.สภ.บ้านแซว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จับกุมที่ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จว.เชียงราย
คดีที่2. ตม.จว.เชียงราย จับกุมคนไทย 4 ราย ลักลอบขนคนต่างด้าวสัญชาติจีนหลบหนีเข้าเมือง รวม 16 ราย :
1. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเชียงราย และกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบทราบว่าจะมีการขนคนต่างด้าวจากพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ไปยังอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จึงทำการสืบสวนพบรถยนต์จำนวน 3 คัน ตามรับแจ้งจึงไล่ติดตามและสกัดจับกุมได้บริเวณหน้าโรงเรียนแม่ลอยไร่ อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ตรวจสอบพบนายนิคม อายุ 64 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนซ์ ซึ่งใช้บรรทุกคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติจีน จำนวน 4 ราย, นายธนวัฒน์ อายุ 48 ปี พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ซึ่งใช้บรรทุกคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติจีน จำนวน 4 ราย และนายตุ๋ย อายุ 63 ปี ที่ พร้อมของกลาง รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโปรตอน สีขาว ซึ่งใช้บรรทุกคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติจีน จำนวน 1 ราย จึงจับกุมและความคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เทิง จว.เชียงราย ดำเนินคดี โดยกล่าวหานายนิคม, นายธนวัฒน์ และนายตุ๋ย ว่า “ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และกล่าวหา
คนสัญชาติจีนทั้ง 9 ราย กล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุด,
ฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตามความมาตรา 8 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และฝ่าฝืนคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย (พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ศ.2558)
2. จากการขยายผลทางเทคนิคกรณีจับกุมตามข้อ 1. เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จะผ่านพื้นที่ จว.เชียงใหม่ – จว.แม่ฮ่องสอน จึงได้สังเกตการณ์ตามเส้นทาง จนถึงเวลาเกิดเหตุ พบรถลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจึงตรวจสอบพบนายวัชระปราณี อายุ 38 ปี ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ และพบผู้โดยสารเป็นคนต่างด้าวสัญชาติจีนหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 9 ราย นั่งโดยสารภายในรถ จึงได้จับกุมและความคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เทิง จว.เชียงราย ดำเนินคดี โดยกล่าวหานายวัชระปราณีฯ ว่า “ช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นจากการจับกุม” และกล่าวหาคนต่างด้าวสัญชาติจีนทั้ง 7 คน ว่า “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558”
คดีที่3. ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จับกุมคนสัญชาติลาว รวม 2 คน ลักลอบขนคนหลบหนีเข้าเมือง สัญชาติจีน 2 ไทย 3 รวม 7 ราย :
1. เจ้าหน้าที่สืบสวนด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้สืบทราบว่าจะมีการขนคนต่างด้าวจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ามา ในราชอาณาจักรไทย ด้านอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จึงทำการสืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังพื้นที่สุ่มเสี่ยง กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. พบเรือหางยาวบรรทุกผู้โดยสารข้ามแม่น้ำโขงจาก สปป.ลาว เข้ามาจอดเทียบจุดจอดเรือแม่โขงเดลต้า บ้านป่าสักหางเวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบคนต่างด้าวสัญชาติลาว 1 คนและสัญชาติไทย 3 คน จากการสอบถามทราบชื่อคือ 1.นายมัง อายุ 32 ปี สัญชาติลาว 2.นายเจริญ อายุ 23 ปี สัญชาติไทย 3. นายธนธรรม อายุ 25 ปี สัญชาติไทย 4. นายพัสสน อายุ 23 ปี สัญชาติไทย จึงได้ทำการจับกุมและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จว.เชียงราย ดำเนินคดี โดยกล่าวหา 1.นายมัง อายุ 32 ปี สัญชาติลาว ว่า 1) เป็นเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะไม่นำพาหนะเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 2)ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35(1)พ.ร.บ.ควบคุมโรค 2558 3)ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 และกล่าวหา คนไทยทั้ง 3 ราย ว่า 1)เข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งมิใช่ช่องทาง ด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่าสถานี หรือท้องที่ตามเวลาที่กำหนดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 2)ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35(1) พ.ร.บ.ควบคุมโรค 2558 3) ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9
สถานที่เหตุเกิด บริเวณจุดจอดเรือแม่โขงเดลต้า บ้านป่าสักหางเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
2. เจ้าหน้าที่สืบสวนด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ได้สืบทราบว่าจะมีการขนคนต่างด้าวจาก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้านอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จึงทำการสืบสวนหาข่าวเฝ้าระวังพื้นที่สุ่มเสี่ยง กระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น.พบเรือหางยาวบรรทุกผู้โดยสารข้ามแม่น้ำโขงจาก สปป.ลาว เข้ามาจอดเทียบจุดจอดเรือแม่โขงเดลต้า บ้านป่าสักหางเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ พบคนต่างด้าวสัญชาติลาว 1 คนและสัญชาติจีน 2 คน จากการสอบถามทราบชื่อคือ 1.นายเพ็ด อายุ 50 ปี สัญชาติลาว เป็นคนขับเรือหางยาว 2.นายซุน (SUN ) อายุ 24 ปี สัญชาติจีน ถือหนังสือเดินทางสาธารณะรัฐประชาชนจีน 3.นาง หม่า (MA) อายุ 25 ปี สัญชาติจีน ถือหนังสือเดินทางสาธารณะรัฐประชาชนจีน จึงได้ทำการจับกุมและควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เชียงแสน จว.เชียงราย ดำเนินคดี โดยกล่าวหา นายเพ็ด อายุ 50 ปี สัญชาติลาว ว่า 1.นำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร 2.เป็นเจ้าของพาหนะหรือผู้ควบคุมพาหนะไม่นำพาหนะเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักรตามช่องทางด่านตรวจคนเข้าเมือง เขตท่า สถานี หรือท้องที่และตามกำหนดเวลาตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา 3.ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ หรือผู้ว่าราชการจังหวัด”ตามมาตรา 35(1) พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 4.ฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตาม ม.9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 พร้อมด้วยของกลาง เรือกาบเหล็กสีแดง กว้าง 09.7 ม. ยาว 9.8 ม. พร้อมเครื่องยนต์ยี่ห้อฮอนด้า 270 จำนวน 1 ลำ
และกล่าวหา คนจีนทั้ง 2 ราย กล่าวหาว่า 1)เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต 2)ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือผู้ว่าราชการจังหวัด ตามมาตรา 35(1) พ.ร.บ.ควบคุมโรค 2558 3) ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9
สถานที่เหตุเกิด บริเวณจุดจอดเรือแม่โขงเดลต้า บ้านป่าสักหางเวียง ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ ฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างสูง



