
จังหวัดเชียงรายจัดการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด 2019 ครั้งที่ 29/2563 เพื่อกระชับมาตรการป้องกันและจัดการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงรายจัดการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด 2019 ครั้งที่ 29/2563 เพื่อกระชับมาตรการป้องกันและจัดการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์โรคโควิด 2019 ครั้งที่ 29/2563 เมื่อเช้าวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2563 ที่ห้องพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถนนแม่ฟ้าหลวง ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย โดยมี คณะทำงานเข้าร่วมประชุมรายงานและวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อรับมือกับการสถานการณ์และระงับการแพร่กระจายเชื้อในพื้นที่นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จากกรณีที่มีหญิงสาวชาวไทย 2 คน ที่ข้ามไปทำงานที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ลักลอบข้ามแดนเข้าประเทศไทยทางเส้นทางธรรมชาติ ในพื้นที่อำเภอแม่สาย และมีอาการติดเชื้อโควิด 19 จัดเป็นผู้ป่วยรายที่ 9 และรายที่ 10 จากนั้นได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวในสถานพยาบาลที่จังหวัดเชียงรายอย่างเร่งด่วนไปแล้วนั้นจังหวัดเชียงรายจึงกำหนดจัดการประชุมคณะทำงานในครั้งนี้ เพื่อกระชับมาตรการป้องกันและจัดการปัญหาควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งที่ประชุมได้รายงานถึงการกักตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง 2 รายดังกล่าว จำนวน 24 คน ซึ่งทั้งหมดอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้ว โดยผลการตรวจหาเชื้อเบื้องต้น ยังคงไม่พบเชื่อ แต่จะต้องกักตัวให้ครบ 14 วัน ตามมาตรฐานทางการแพทย์นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาทบทวนมาตรการ สถานที่กักกันโรค หรือ (Local Quarantine) เพื่อรองรับคนไทยที่จะเดินทางกลับมาจากฝั่งท่าขี้เหล็ก เมียนมา โดยผ่านกระบวนการขั้นตอนความร่วมมือของศูนย์ประสานงานชายแดน (TBC) ของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งกำหนดจะเดินทางเข้ามารอบแรกในวันที่ 4 ธันวาคม 63 นี้นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ยังได้กล่าวเน้นย้ำด้วยว่า การประชาสัมพันธ์ให้คนไทยที่มีประวัติการเดินทางไปในพื้นที่ท่าขี้เหล็กและลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมา ขอให้เข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน) และขอคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุข (อสม. รพ.สต.) โดยด่วน เพื่อวิเคราะห์ ตรวจคัดกรอง และให้คำปรึกษาในการปฏิบัติตัวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคที่อาจติดตัวมาด้วย โดยให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และให้ความเชื่อมั่นว่าจังหวัดเชียงรายยังคงมีความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากผู้ป่วยที่ตรวจพบนั้น เป็นผู้ป่วยที่หลบหนีเข้ามาจากต่างประเทศ และจังหวัดเชียงรายก็สามารถควบคุมบุคคลกลุ่มเสี่ยงให้อยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ได้ทั้งหมดแล้ว ขณะที่ หน่วยงานความมั่นคง ตามแนวชายแดน ได้เพิ่มความเข้มข้นในการสกัดกั้นบุคคลที่จะหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทุกช่องทาง และยังคงปฏิบัติการในด้านจิตวิทยาไปพร้อมกันด้วย


Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
เสริม ศักดิ์สม รายงาน


