สมาคมสื่อฯจี้ป.ป.ช.ตามเรื่องผู้เสียหายเอาผิดอาญากับอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่2คดีไม่คืบ
จากกรณีมีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่2ต.บ้องตี้อ.ไทรโยคจ.กาญจนบุรีถูกอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่2ต.บ้องตี้อ.ไทรโยคจ.กาญจนบุรีเรียกรับเงินค่าทำบัตร-ต่อบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน(ชาติพันธุ์)ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ถูกไล่ออกไปแล้วเมื่อวันที่13ก.ค.63ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยคให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตผู้ใหญบ้านหมู่2ในความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”โดยทุจริต(157)เมื่อวันที่23ธันวาคม2563โดยทางพนักงานสอบสวนสภ.ไทรโยคได้ส่งเอกสารหลักฐานและแผ่นซีดีที่มีการสนทนาต่อรองราคาในการทำบัตร-ต่อบัตรบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน(ชาติพันธ์ุ)กับอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่2ให้กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เมื่อวันที่19มกราคม2564เป็นที่เรียบร้อยล่าสุดวันนี้7มกราคม2565เวลา11.25น.นายคฑาภณ สนธิจิตรนายกสมาคมผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน(ประเทศไทย)
-ประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบแห่งชาติได้เปิดเผยว่าวันนี้ได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้าในคดีนี้กับป.ป.ช.จ.กาญจนบุรีโดยได้รับคำตอบว่าเหตุผลที่ล่าช้าเพราะทางป.ป.ช.ต้องรอเอกสารผลการสอบสวนทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการสอบสวนของกรมการปกครอง-นายอำเภอไทรโยค-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญฯจากกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้ทำเรื่องขอไปเรียบร้อยแล้วแต่ที่เกิดความล่าช้าขึ้นเพราะมีเหตุการระบาดของโรคโควิด19ประกอบกลับผู้ที่รับเรื่องไว้ก็เกีษยณพอดีและที่ต้องขอเอกสารกับทางกระทรวงไทยเพราะทางป.ป.ช.ได้ทำหนังสื่อขอเอกสารทั้งหมดไปที่อำเภอ.ไทยโยคก็ได้รับแจ้งกับมาว่าไม่ใช้หน้าที่และไม่มีอำนาจให้เอกสารให้ไปเอาที่กระทรวงมหาดไทยซึ่งทางป.ป.ช.ได้ทำเรื่องขอไปนานแล้วซึ่งคาดว่าเร็วๆนี้คงได้เอกสารทั้งหมดจากกระทรวงมหาดไทยหลังจากได้เอกสารต่างๆแล้วก็จะเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการต่อไปโดยทางป.ป.ช.ยืนยันว่าคดีนี้ถึงช้าแต่ถ้าหลักฐานๆต่างครบถ้วนชัดเจนไม่ต้องกลัวว่าคนผิดจะไม่ได้รับโทษต้องได้รับโทษแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว
โดยนายคฑาภณ ได้กล่าวว่าถ้าเอกสารในคดียังล่าช้าแบบนี้ทางสมาคมฯจะทำหนังสือและเข้ายื่นเรื่องกับปลัดกระทรวงมหาดไทยให้ช่วยเร่งรัดเอกสารในคดีนี้ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
