
ดร.สมคิด พร้อมแกนนำ พรรคสร้างอนาคตไทยลงพื้นที่รับฟังปัญหาเกษตรกร เหน็บภาคอีสาน มี ส.ส.มากถึง 130 คน ยังช่วยให้ชีวิตเกษตรกรดีขึ้นไม่ได้

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2565 ที่บ้านสวนพอเพียง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมผู้บริหารพรรค นายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานภาคอีสาน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี จับเข่าคุยตัวแทนเกษตรกร ประชาชน และชาวบ้าน ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี โดยได้สะท้อนเรื่องปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร โดยดร.สมคิด กล่าวว่า วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง จะไม่เลือกตนก็ไม่เป็นไร ตนคิดมาโดยตลอดว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่ชาวนาได้อย่างไร ตนทำงานมาตลอดตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย และไม่เคยสนใจตำแหน่ง แต่อยากใช้มันสมองช่วยเหลือเกษตรกรให้อยู่ดีกินดี ตนช่วยตั้งแต่นโยบายจำนำข้าว จนมาถึงยุคโครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์รวม 10 กว่า ปี รวมเป็นเงินช่วยเหลือไม่รู้กี่แสนล้านบาท ผมไม่เอาเป็นนายกฯ แล้วเท่ห์ แต่ชาวบ้านไม่มีกิน ถามว่าจะเป็นไปทำไม เราทำเพื่อให้คนเป็นล้านคน มีกินมีใช้ ไม่ต้องไปเป็นคนใช้การจะพลิกอีสานใช้เงินไม่มาก แต่ต้องเอาจริงทำจริง และดูว่างบประมาณที่มีจะทำอะไรก่อนหลังและคนเป็นนายกฯ อย่าไปกลัวพรรคนั้นพรรคนี้ ต้องจริงจัง ตนเกิดมาไม่ได้หวังรัฐมนตรี ที่เงินเดือนหลักแสน อายุ 70 กว่าแล้วไม่ได้ต้องการอะไรแล้ว สุขภาพก็ไม่ดี ที่เดินสายช่วยประชาชนได้ แค่นี้ก็อิ่มใจแล้ว” ดร.สมคิดกล่าวว่าอีสานเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีประชาชนกว่า 20 ล้านคน ทั้งที่มีส.ส.มากกว่า 130 คน แต่ทำไมยังช่วยพี่น้องไม่ได้ แปลว่าอะไร คนอีสานต้องคิดให้ได้ว่า ส.ส.มากที่สุด แผ่นดินก็มี เพียงแต่พื้นดินรับน้ำไม่ได้ น้ำมาก็ท่วม แล้วที่ผ่านมา สส.ได้ทำเพื่อคนอีสานอย่างจริงๆจังๆหรือไม่ เราไม่โทษใคร แต่เราต้องรู้ว่าพรรคการเมืองใดจะทำงานจริงๆเพื่อคนอีสานบ้าง
ดร.สมคิด กล่าวว่า ตนไม่ใช่นักการเมือง ดังนั้นทุกโครงการที่ออกมาจะจริงจัง เพราะเราอยากทำ เพื่อให้คนเป็นล้านคนมีกิน ลูกเต้าไม่ต้องไปทำงานในเมืองไปเป็นคนใช้ให้คนดูแคลน หรือทำงานโรงงานค่าแรงก็ถูก แต่นายทุนรวยขึ้น ถ้าจะพลิกอีสานใช้เงินไม่มากหรอก งบประมาณแผ่นดินต้องเอาจริงว่าอะไรมาก่อนมาหลัง วิธีช่วยมีหลายอย่าง ไม่ใช่จำนำข้าวปีต่อปี เราต้องพัฒนารายได้ให้แข็งแรง ถ้ารัฐบาลเอาจริงไม่ใช่สักแต่ว่าขอไปที จะสามารถแก้ปัญหาได้ โอกาสมันมี ตนจะเปิดนโยบายของพรรค ตอนนี้เรารู้ปัญหาของเกษตรกรทุกท่าน ตนติดต่อกับคนในธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือธ.ก.ส.มาตลอด จึงรู้ว่า เขาอยากช่วยเกษตกร แต่อยู่ที่นโยบายของรัฐบาล เพราะกระทรวงการคลังที่ผ่านมาวัดที่ผลกำไร ดังนั้นจึงควรเปลี่ยนตัววัดใหม่ เป็นเรื่องการช่วยเกษตกรแทน การนำนี้สำคัญมาก ถ้าบริหารภายใต้ข้อจำกัดว่าจะเอาอย่างนี้อย่างนั้น ถ้าทำจริงๆ คนเป็นนายกฯ คำไหนต้องคำนั้น จะกลัวพรรคนั้นพรรคนี้ทำไม อยู่ไม่ได้ก็ไป ชนะเลือกต้ังได้เป็นนายกไม่มีประโยนช์ ถ้าคนทั้งประเทศไม่มีกิน



